ชาวไต้หวันอ้างเติมเงินกับเกมยิง แต่แท้จริงคือใช้เงินเล่นพนัน
จากการสำรวจล่าสุดของศูนย์วิจัยประเด็นสำคัญ ku bet พบว่าผู้เล่นเกมมือถือชาวไต้หวัน ใช้เงินเฉลี่ยเดือนละ 1,166 ดอลลาร์ไต้หวัน กับเกมพนัน ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 300 ดอลลาร์ไต้หวันเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทำให้เกมพนันกลายเป็นแชมป์ดูดเงินในปีนี้ ku bet ในขณะที่เกม AR ku bet ซึ่งเคยเป็นแชมป์ในปีที่แล้ว กลับตกลงไปอยู่อันดับที่ 9 โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนลดลง 340 ดอลลาร์ไต้หวัน ส่วนเกมสำหรับครอบครัวและเด็ก รวมถึงเกมกระดาน ku bet มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนเพิ่มขึ้น 424 ดอลลาร์และ 408 ดอลลาร์ไต้หวัน ตามลำดับ ku bet
เมื่อถามถึงความเต็มใจในการจ่ายเงินของผู้เล่น พบว่าชาวไต้หวันยินดีจ่ายเงินให้กับ เกมต่อสู้ออนไลน์แบบผู้เล่นหลายคน (MOBA) มากที่สุด โดยมีสัดส่วน 56% รองลงมาคือเกม AR 48% และเกมการ์ด 45% อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับปี 2021 ความเต็มใจจ่ายเงินสำหรับเกม AR และเกมแข่งรถลดลงเกิน 10% ในขณะที่เกมการ์ดและเกมสำหรับครอบครัวกลับเพิ่มขึ้นเกือบ 10%
ส่วนใหญ่ได้เกมมาจากคำแนะนำของเพื่อนและครอบครัว
ผู้ตอบแบบสำรวจ 85.6% เล่นเกมเป็นประจำ การเดิมพันกีฬา และ 95.6% ใช้อุปกรณ์มือถือหรือแท็บเล็ตในการเล่น ส่วนใหญ่ได้ข้อมูลเกมจากคำแนะนำของเพื่อนและครอบครัว ในขณะที่ผู้เล่นอายุ 16-29 ปี จะเชื่อถือโฆษณามากกว่า ส่วนกลุ่มอายุ 30-39 ปี มักได้ข้อมูลจากฟอรัมเกม กลุ่มสนทนา และเว็บไซต์รีวิวเกม การเดิมพันกีฬา
ปัจจุบันชาวไต้หวันมีแนวโน้มเล่นเกมมากขึ้น การเดิมพันกีฬา โดยมีสัดส่วนคนที่ดาวน์โหลดเกมเพิ่มขึ้นถึง 90% เมื่อเทียบกับปีก่อน การเดิมพันกีฬา เฉลี่ยแล้วแต่ละคนมี 3.9 แอปเกม ในอุปกรณ์ โดยส่วนใหญ่ยังเน้นเกมดาวน์โหลดฟรี แต่ก็ไม่ปฏิเสธที่จะใช้จ่ายเงินในเกม โดยผู้เล่นที่ยอมจ่ายเงินเพื่อ เครื่องแต่งกายตัวละคร มีจำนวนมากที่สุด ตามมาด้วยการซื้อไอเท็มในเกม ซึ่งคิดเป็น 11% การเดิมพันกีฬา
ผู้สนับสนุนหลักของเกมพนันคือผู้ชายและกลุ่มวัยกลางคน
แม้เกมพนันจะทำรายได้สูงสุด แต่ก็ยังมีคนไต้หวันประมาณ 30% ที่ชื่นชอบเกมแนวพัซเซิล (Puzzle) มากที่สุด รองลงมาคือเกมแนวสวมบทบาท (RPG) และเกมจำลองสถานการณ์ ส่วนเกมต่อสู้ออนไลน์แบบผู้เล่นหลายคน (MOBA) อยู่อันดับ 6 โดยผู้เล่นเกมพนันส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย และอยู่ในกลุ่มอายุ 40-49 ปี และ 50-60 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความมั่นคงทางการเงินและมีกำลังจ่ายสูง การเดิมพันกีฬา
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เกมพนันแม้จะได้รับความนิยมเป็นอันดับ 4 แต่สามารถดึงดูดผู้เล่นที่จ่ายเงินมากที่สุด และมีมูลค่าเงินหมุนเวียนสูงที่สุด
เฉลี่ยเล่นพนันบนมือถือวันละ 1.5 ชั่วโมง
ผู้เล่นเกมต่อสู้ออนไลน์แบบผู้เล่นหลายคน (MOBA) ใช้เวลาเล่นเกมครั้งละประมาณ 2 ชั่วโมง และเล่นเฉลี่ย 6.5 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งถือว่ามีเวลาการเล่นต่อครั้งยาวนานที่สุด ส่วนเกม AR มีค่าเฉลี่ยการเข้าเล่นสูงสุดที่ 7.5 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่เล่นเฉลี่ยครั้งละ 1.1 ชั่วโมง ขณะที่ผู้เล่นเกมพนันบนมือถือ จะใช้เวลาเล่นเฉลี่ยวันละ 1.5 ชั่วโมง และเข้าเล่นเฉลี่ย 6 ครั้งต่อสัปดาห์ ส่วนเกมสำหรับครอบครัวมีค่าเฉลี่ยการเล่นต่ำสุด คือ 4.5 ครั้งต่อสัปดาห์
2 วิธีเลิกติดเกมพนันบนมือถือ
เนื่องจากเกมพนันบนมือถือไม่ได้ใช้เงินจริง KUBET (สกุลเงินไต้หวัน) แต่ใช้สกุลเงินเสมือนในเกมแทน และการที่บริการชำระเงินจากบุคคลที่สามและ NFT KUBET ในเกมได้รับความนิยมสูง ทำให้กฎหมายปรับตัวไม่ทันกับเทคโนโลยี ส่งผลให้เกมพนันเหล่านี้ไม่ผิดกฎหมาย แต่การติดพนันมือถือก็อาจทำให้ผู้เล่นพบกับหายนะได้
จากการสำรวจพบว่า ผู้เล่นเกมมือถือจำนวนมาก 60% KUBET มักเปลี่ยนเกมเมื่อพบเกมที่น่าสนใจกว่า ในขณะที่ผู้เล่นเกมพนันในกลุ่มอายุ 40-49 ปี และ 50-60 ปี ก็มีแนวโน้มจะเปลี่ยนเกม เมื่อพบว่าตนเองใช้เงินมากขึ้น โดยมีสัดส่วน 46.1% และ 43.1% ตามลำดับ KUBET
กล่าวได้ว่า หากต้องการให้คนรอบตัวลดการเล่นเกมพนันบนมือถือ KUBET การแนะนำเกมที่สนุกกว่าหรือทำให้ผู้เล่นตระหนักถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น อาจช่วยลดพฤติกรรมติดเกมพนัน หรือกระตุ้นให้ผู้เล่นเปลี่ยนไปเล่นเกมอื่นแทนได้ KUBET